เหตุผลที่การดูดไขมันต้นแขนเหมาะกับคนที่มี BMI ไม่เกิน 30

ค่า BMI หรือ Body Mass Index คือค่าดัชนีมวลกายที่เอาสัดส่วนของเราไปเข้าสูตรคำนวณ แล้วเอาผลที่ได้มาประเมินว่าอยู่ในสภาวะอ้วนหรือไม่ ยิ่งตัวเลขมากก็แสดงว่าเราอ้วนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องทำให้ตัวเลขน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะแบบนั้นก็ถือว่าผอมเกินไปจนทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง ค่ามาตรฐานของ BMI จะอยู่ที่ประมาณ 19-23 หากใครวัดได้ในช่วงนี้ก็จัดว่ามีรูปร่างสมส่วน ทีนี้ในกรณีของการดูดไขมันแขน คลินิกส่วนใหญ่จะกำหนดค่า BMI ไว้ที่ไม่เกิน 30 และมีบ้างที่กำหนดให้ค่า BMI ไม่เกิน 25

 

สิ่งหนึ่งที่หลายคนเข้าใจผิดก็คือ การดูดไขมันทุกประเภทเป็นการลดน้ำหนัก และเราสามารถดูดไขมันออกเท่าไรก็ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย อย่างการดูดไขมันแขนก็จะมีปริมาณไขมันที่จำกัดอยู่ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายไม่ฉับพลันจนเกินไป ในระหว่างที่เราดูดไขมันออกจะมีการสูญเสียน้ำไปพร้อมกันด้วย เมื่อถึงจุดหนึ่งร่างกายจึงเสียสมดุล และระบบการทำงานทั้งหมดก็จะเกิดปัญหา บางคนอาจได้รับผลกระทบรุนแรงจนถึงขั้นช็อคหรือเสียชีวิตได้

 

อย่างแรกที่ทุกคนต้องจำไว้ก็คือ หากคลินิกไหนให้บริการดูดไขมันแขนทั้งที่รู้ว่ามีค่า BMI เกินข้อกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่มีความเสี่ยงสูงมาก เราจะต้องหลีกเลี่ยงแล้วมองหาคลินิกอื่นที่ไว้วางใจได้มากกว่า คนที่พบว่าตัวเองมีปริมาณไขมันสูงมาก วัดค่า BMI แล้วเกิน 30 แต่ต้องการดูดไขมันต้นแขน จะต้องได้รับการรักษาในรูปแบบอื่นร่วมด้วย โดยแพทย์จะแนะนำวิธีการให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน อาจจะเป็นการควบคุมอาหารและออกกำลังกายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อลดค่า BMI ให้ถึงมาตรฐานก่อนค่อยมาดูดไขมันแขน หรืออาจจะมีการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ประเภทอื่นๆ เข้ามาช่วย ตรงนี้จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนเสมอ

 

การดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายเป็นวิธีที่สามารถขจัดไขมันส่วนเกินอย่างได้อย่างเห็นผล แต่การดูดไขมันย่อมมีความเสี่ยง เราควรเลือกดูดไขมันกับคลินิกที่ได้รับรองมาตรฐาน อย่างอิสสวีร์คลินิกมีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันโดยเฉพาะ ผ่านการดูดไขมันมามากกว่า 3,000 เคส  สาวๆสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรีวิวดูดไขมันได้ที่ Issaveeclinic